คำพิพากษาล่าสุดที่ 19125 ลงวันที่ 26 เมษายน 2023 ของศาลฎีกา ได้ให้คำชี้แจงที่สำคัญเกี่ยวกับองค์ประกอบของความผิดฐานฟอกเงิน โดยระบุถึงความรับผิดทางอาญาของผู้ที่เปิดบัญชีธนาคารเพื่อรับเงินที่ได้มาจากการฉ้อโกงทางคอมพิวเตอร์ การวิเคราะห์เชิงลึกนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เข้าใจถึงผลกระทบทางกฎหมายของการกระทำดังกล่าวได้ดียิ่งขึ้น
ในคดีนี้ จำเลย A. B. ได้อนุญาตให้ใช้บัญชีธนาคารของตนเพื่อรับการโอนเงินที่ผิดกฎหมายสองรายการ ซึ่งเกิดจากการเข้าถึงบัญชีของบุคคลผู้เสียหายโดยมิชอบ ศาลได้วินิจฉัยว่า แม้ว่าจำเลยจะไม่ได้มีส่วนร่วมโดยตรงในการฉ้อโกงทางคอมพิวเตอร์ แต่การกระทำของเขาก็เพียงพอที่จะเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินตามมาตรา 648-bis แห่งประมวลกฎหมายอาญา
การฟอกเงิน - การฝากเงินที่ได้มาจากการฉ้อโกงทางคอมพิวเตอร์เข้าบัญชีธนาคารที่เปิดโดยบุคคลที่ไม่ใช่ผู้สมรู้ร่วมคิดในความผิดมูลฐาน - การเข้าข่ายความผิดของผู้ถือบัญชีธนาคาร - การมีอยู่จริง - กรณีศึกษา การกระทำของผู้ที่ไม่ได้สมรู้ร่วมคิดในความผิดมูลฐาน แต่เปิดบัญชีธนาคารของตนเพื่อขัดขวางการสืบหาแหล่งที่มาอันผิดกฎหมายของเงินที่ผู้อื่นได้มาโดยการฉ้อโกงทางคอมพิวเตอร์ โดยอนุญาตให้ฝากเงินเข้าบัญชีดังกล่าวและดำเนินการรับเงินในภายหลัง ถือเป็นความผิดฐานฟอกเงิน (กรณีศึกษาที่จำเลย หลังจากที่ผู้อื่นเข้าถึงระบบ "home banking" ของผู้เสียหายโดยมิชอบ ได้รับการโอนเงินสองรายการพร้อมกับการเข้าบัญชีของเงินที่ถูกถอนไปโดยผิดกฎหมาย ได้ร้องขอในวันเดียวกันให้ออกเช็คไปรษณีย์สองฉบับและรับเงินที่เป็นผลมาจากการกระทำความผิดตามมาตรา 640-ter แห่งประมวลกฎหมายอาญา)
คำพิพากษานี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเฝ้าระวังการใช้บัญชีธนาคารของตนเอง เนื่องจากเพียงแค่การอนุญาตให้ใช้ก็อาจนำไปสู่ความรับผิดทางอาญาได้ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่จัดการบัญชีธนาคารที่จะต้องตระหนักถึงการทำธุรกรรมที่เกิดขึ้นในบัญชีและแหล่งที่มาของเงินทุน ดังนั้น การตีความของศาลจึงทำหน้าที่เป็นคำเตือนสำหรับผู้ใช้ระบบธนาคารทุกคน โดยเสริมสร้างแนวคิดที่ว่ากฎหมายไม่เพียงแต่ลงโทษผู้ที่กระทำความผิดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ที่อำนวยความสะดวกในการกระทำความผิดอย่างสมรู้ร่วมคิดด้วย