คำพิพากษาล่าสุดที่ 15836 เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2023 ของศาลฎีกา ได้ให้มุมมองใหม่เกี่ยวกับระเบียบการเกี่ยวกับการได้มาและการใช้ข้อมูลตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่อยู่ในบันทึกการโทรศัพท์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศาลได้ตัดสินว่าข้อมูลดังกล่าวที่ได้มาโดยไม่มีคำสั่งอนุญาตที่จำเป็นจากหน่วยงานตุลาการ ถือว่ามีข้อบกพร่องจนไม่สามารถนำมาใช้ได้ ซึ่งก่อให้เกิดคำถามพื้นฐานเกี่ยวกับการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวและการรักษาความลับของการสื่อสาร
การอ้างอิงทางกฎหมายหลักคือมาตรา 132 วรรค 3 ของกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (d.lgs.) ฉบับที่ 196 ปี 2003 ซึ่งกำหนดให้ต้องมีคำสั่งอนุญาตเพื่อได้มาซึ่งข้อมูลตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ ศาลได้ชี้แจงว่าการละเมิดกฎดังกล่าวส่งผลให้ข้อมูลนั้นไม่สามารถนำมาใช้ในการพิจารณาคดีได้ เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิในการรักษาความลับของการสื่อสาร ซึ่งได้รับการคุ้มครองโดยรัฐธรรมนูญอิตาลี ประเด็นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในบริบทของการพิจารณาคดีแบบย่อ (giudizio abbreviato) ซึ่งความรวดเร็วและความถูกต้องของพยานหลักฐานเป็นสิ่งสำคัญ
ศาลได้ให้เหตุผลในการตัดสินโดยเน้นว่าการได้มาซึ่งข้อมูลที่ละเอียดอ่อนโดยไม่มีการอนุญาตที่เหมาะสม ถือเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของบุคคล ในทำนองเดียวกัน คำพิพากษาได้ย้ำถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้มั่นใจในความสมบูรณ์ของกระบวนการและคุ้มครองสิทธิของบุคคลที่เกี่ยวข้อง
บันทึกการโทรศัพท์ – ระเบียบการตามมาตรา 132 วรรค 3 ของกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (d.lgs.) ฉบับที่ 196 ปี 2003 – ข้อมูลตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ – การได้มาโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรณีที่ไม่มีคำสั่งอนุญาตจากหน่วยงานตุลาการ – การนำมาใช้ในการพิจารณาคดีแบบย่อ – การยกเว้น – เหตุผล ในประเด็นเกี่ยวกับการได้มาซึ่งข้อมูลที่อยู่ในบันทึกการโทรศัพท์ ข้อมูลตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับหมายเลขโทรศัพท์หรือหมายเลขโทรคมนาคมที่ได้มาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรณีที่ไม่มีคำสั่งอนุญาตจากหน่วยงานตุลาการ ซึ่งเป็นการละเมิดมาตรา 132 วรรค 3 ของกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (d.lgs.) ฉบับที่ 196 ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2003 จะไม่สามารถนำมาใช้ในการพิจารณาคดีแบบย่อได้ เนื่องจากเป็นพยานหลักฐานที่ละเมิดสิทธิในการรักษาความลับของการสื่อสารซึ่งได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ และดังนั้นจึงถือว่ามีข้อบกพร่องจนไม่สามารถนำมาใช้ได้ ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการขอให้ยุติคดีตามรูปแบบของกระบวนการทางเลือก
คำพิพากษาที่ 15836 ปี 2023 ถือเป็นการยืนยันหลักการแห่งกฎหมายและการคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานที่สำคัญ โดยยืนยันอีกครั้งว่าการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวไม่สามารถละเลยได้ แม้ในระหว่างการสืบสวนคดีอาญา สำหรับทนายความและผู้เชี่ยวชาญในวงการกฎหมาย เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องคำนึงถึงคำพิพากษานี้เมื่อประเมินความสามารถในการนำพยานหลักฐานมาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทที่เทคโนโลยีและข้อมูลส่วนบุคคลมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการสืบสวน