คำสั่งศาลฎีกาฉบับล่าสุดที่ 8875 ลงวันที่ 4 เมษายน 2024 ได้ก่อให้เกิดประเด็นสำคัญเกี่ยวกับลักษณะของการบริจาคแบบมีเงื่อนไขและการเก็บภาษี คำตัดสินนี้เป็นส่วนหนึ่งของกรอบกฎหมายที่ซับซ้อน ซึ่งการแยกแยะระหว่างการบริจาคและรายได้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการใช้ภาษีที่ถูกต้อง เราจะวิเคราะห์เนื้อหาของคำสั่งนี้และผลกระทบของมัน
ประเด็นทางกฎหมายที่ศาลหยิบยกขึ้นมาพิจารณาเกี่ยวข้องกับกรณีที่มารดาได้บริจาคธุรกิจให้กับบุตรชาย โดยกำหนดภาระให้บุตรชายต้องชำระเงินจำนวนหนึ่งให้กับบิดา สถานการณ์นี้ได้นำไปสู่ข้อพิพาทเกี่ยวกับการเก็บภาษีของจำนวนเงินที่จ่ายให้กับบุคคลที่สาม ซึ่งตามคำตัดสินที่ถูกอุทธรณ์ ถือเป็นรายได้ที่เทียบเคียงได้กับรายได้จากการจ้างงาน ตามมาตรา 50 ของ T.U.I.R.
โดยทั่วไป การบริจาคแบบมีเงื่อนไขเพื่อประโยชน์ของบุคคลที่สามที่ระบุไว้ ถือเป็นการบริจาคสองครั้ง ครั้งหนึ่งเพื่อประโยชน์ของผู้รับบริจาค และอีกครั้งหนึ่งเพื่อประโยชน์ของผู้รับผลประโยชน์ ซึ่งก่อให้เกิดการเพิ่มขึ้นของทรัพย์สินของผู้รับผลประโยชน์ผ่านการดำเนินการโดยตรงของผู้รับบริจาค ดังนั้น จำนวนเงินที่จ่ายให้กับบุคคลที่สามเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ จะไม่สามารถจัดประเภทเพื่อวัตถุประสงค์ทางภาษีว่าเป็นรายได้ที่เทียบเคียงได้กับรายได้จากการจ้างงานที่ต้องเสียภาษีตามมาตรา 50 T.U.I.R. (ในกรณีนี้ ศาลฎีกาได้ยกเลิกคำตัดสินที่ถูกอุทธรณ์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการบริจาคธุรกิจจากมารดาให้กับบุตรชาย โดยมีข้อกำหนดให้ชำระเงินเป็นงวดให้กับบิดา โดยถือว่าการชำระเงินเป็นงวดให้กับบุคคลที่สามต้องเสียภาษีตามบทบัญญัติที่กล่าวมาข้างต้น โดยไม่ได้พิจารณาถึงลักษณะของการให้เปล่าของการบริจาคแบบมีเงื่อนไขที่ปรากฏในเอกสารการบริจาคเอง)
ศาลได้ชี้แจงว่า ในกรณีของการบริจาคแบบมีเงื่อนไข จะมีการบริจาคสองครั้ง: ครั้งหนึ่งเพื่อประโยชน์ของผู้รับบริจาค และอีกครั้งหนึ่งเพื่อประโยชน์ของผู้รับผลประโยชน์ การแยกแยะนี้มีความสำคัญเนื่องจากหมายความว่าจำนวนเงินที่จ่ายให้กับบุคคลที่สามเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ จะไม่สามารถถือว่าเป็นรายได้จากการจ้างงานได้ การตัดสินนี้มีพื้นฐานมาจากหลักการกฎหมายแพ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรา 769 และ 793 ของประมวลกฎหมายแพ่ง ซึ่งควบคุมการบริจาคและเงื่อนไข
โดยสรุป คำสั่งศาลฎีกาที่ 8875 ปี 2024 ถือเป็นการชี้แจงที่สำคัญเกี่ยวกับเรื่องการบริจาคแบบมีเงื่อนไขและการเก็บภาษี ศาลฎีกาได้ยืนยันถึงความจำเป็นในการพิจารณาลักษณะของการให้เปล่าของการบริจาค โดยหลีกเลี่ยงการเทียบเคียงที่ไม่เหมาะสมกับรายได้จากการจ้างงาน คำตัดสินนี้ให้แนวทางที่มีคุณค่าสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและผู้เสียภาษี ถือเป็นก้าวสำคัญในการคุ้มครองสิทธิของผู้รับบริจาคและผู้รับผลประโยชน์