คำพิพากษาที่ 17531 ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2023 ซึ่งออกโดยศาลฎีกา ได้ให้ข้อคิดที่สำคัญเกี่ยวกับประเด็นการรับรองการกระทำผิดต่อเนื่องในระหว่างการบังคับโทษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศาลได้ยืนยันถึงข้อจำกัดที่กำหนดโดยกฎหมายอิตาลีเกี่ยวกับการคำนวณโทษที่จะต้องรับโทษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่อ้างถึงการกระทำผิดต่อเนื่อง
คำพิพากษานี้มีความจำเป็นเพื่อชี้แจงประเด็นที่ยังเป็นที่ถกเถียงกันเกี่ยวกับการบังคับใช้มาตรา 657 วรรค 4 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งกำหนดว่าเฉพาะการควบคุมตัวระหว่างพิจารณาคดีหรือโทษที่รับโทษไปแล้ว "sine titulo" เท่านั้นที่สามารถนำมาคำนวณเพื่อการรับโทษที่จะต้องรับโทษได้ ดังนั้น ศาลจึงยืนยันว่าการรับรองความเชื่อมโยงของการกระทำผิดต่อเนื่องระหว่างการกระทำผิดหลายครั้ง ไม่ได้ทำให้สามารถนำส่วนที่เหลือของโทษไปคำนวณเพื่อการรับโทษโดยอัตโนมัติได้
การรับรองการกระทำผิดต่อเนื่อง "in executivis" - สิทธิในโทษ - การคำนวณเพื่อการรับโทษที่จะต้องรับโทษ - ข้อจำกัด การรับรองความเชื่อมโยงของการกระทำผิดต่อเนื่องระหว่างการกระทำผิดหลายครั้งในระหว่างการบังคับโทษ ซึ่งส่งผลให้มีการกำหนดโทษรวมที่น้อยกว่าโทษที่ได้จากการรวมโทษตามปกติ จะไม่ส่งผลให้ส่วนที่เหลือของโทษสามารถนำไปคำนวณเพื่อการรับโทษโดยอัตโนมัติได้ เนื่องจากขัดต่อบทบัญญัติของมาตรา 657 วรรค 4 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งกำหนดให้เฉพาะการควบคุมตัวระหว่างพิจารณาคดีหรือโทษที่รับโทษไปแล้ว "sine titulo" หลังจากกระทำความผิด และดังนั้นจึงต้องแยกการกระทำผิดต่อเนื่องออกเป็นความผิดแต่ละครั้งที่ประกอบขึ้นเป็นความผิดนั้น
หลักการนี้ชี้ให้เห็นว่าศาลไม่เพียงแต่ยืนยันหลักการทางกฎหมายที่กำหนดไว้ในคำพิพากษาครั้งก่อนๆ เท่านั้น แต่ยังชี้แจงด้วยว่าการแยกการกระทำผิดต่อเนื่องออกเป็นความผิดแต่ละครั้งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการบังคับใช้โทษอย่างถูกต้อง ไม่เพียงพอที่จะพิจารณาการรวมโทษตามปกติ แต่จำเป็นต้องวิเคราะห์ลักษณะเฉพาะของความผิดแต่ละครั้ง
โดยสรุป คำพิพากษาที่ 17531 ปี 2023 ถือเป็นก้าวสำคัญในการกำหนดเกณฑ์การคำนวณโทษในสถานการณ์ของการกระทำผิดต่อเนื่อง ซึ่งมีส่วนช่วยให้การบังคับใช้กฎหมายอาญามีความเป็นธรรมและยุติธรรมมากขึ้น
ศาลฎีกา ด้วยคำพิพากษาที่ 17531 ปี 2023 ได้ยืนยันหลักการทางกฎหมายที่ควบคุมการรับรองการกระทำผิดต่อเนื่องในระหว่างการบังคับโทษได้อย่างชัดเจน การตัดสินใจนี้ไม่เพียงแต่ชี้แจงข้อจำกัดในการบังคับใช้โทษเท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างความจำเป็นในการตีความกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อประโยชน์ของความยุติธรรมและสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายจะต้องรับทราบข้อบ่งชี้เหล่านี้ เพื่อให้แน่ใจว่าการต่อสู้คดีมีประสิทธิภาพและได้รับทราบข้อมูลอย่างครบถ้วน