คำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีแพ่งฉบับล่าสุดที่ 18815/2024 นำเสนอประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับความรับผิดทางวิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพและสิทธิของทารกในครรภ์ คดีนี้เกี่ยวข้องกับผู้เยาว์ชื่อ A.A. ซึ่งบิดามารดาได้ฟ้องร้องหน่วยงานบริการสุขภาพท้องถิ่นแห่งบริงดิซีและทายาทของแพทย์คนหนึ่งในข้อหาประมาทเลินเล่อในการวินิจฉัยความผิดปกติแต่กำเนิดระหว่างการตั้งครรภ์
คำร้องของ A.A. ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการให้บริการทางวิชาชีพที่บกพร่อง ซึ่งทำให้มารดาไม่สามารถประเมินทางเลือกในการยุติการตั้งครรภ์ได้ อย่างไรก็ตาม ศาลอุทธรณ์เลชเชได้ปฏิเสธคำอุทธรณ์แล้ว โดยจำกัดการยอมรับสิทธิในการชดเชยเฉพาะบิดามารดาเท่านั้น แนวทางนี้ได้ก่อให้เกิดคำถามพื้นฐานว่า ทารกในครรภ์มีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนสำหรับสภาพความเป็นอยู่ของตนเองหรือไม่ หรือสิทธิดังกล่าวเป็นสิทธิเฉพาะของบิดามารดา?
คำพิพากษาของศาลฎีกาเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพิจารณาสิทธิของทารกในครรภ์ที่จะมีชีวิตอยู่โดยปราศจากข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรค และชี้ให้เห็นถึงผลกระทบทางกฎหมายของความรับผิดทางการแพทย์
เหตุผลประการแรกในการยื่นคำร้องของ A.A. เน้นย้ำถึงการไม่พิจารณาบทบัญญัติของกฎหมาย 194 ปี 1978 ซึ่งควบคุมการยุติการตั้งครรภ์ ศาลต้องเผชิญกับประเด็นสิทธิในการชดเชยที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 2, 3, 29, 30 และ 32 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของบุคคล แม้ว่าศาลชั้นต้นจะยอมรับความรับผิดของบุคลากรทางการแพทย์ แต่ก็ปฏิเสธสิทธิในการชดเชย โดยให้เหตุผลว่าความเสียหายจากการเกิดที่ไม่พึงประสงค์ไม่สามารถนำมาอ้างกับบุตรเองได้
คำพิพากษาที่ 18815/2024 ถือเป็นบรรทัดฐานทางกฎหมายที่สำคัญซึ่งเชิญชวนให้พิจารณาสมดุลที่ละเอียดอ่อนระหว่างความรับผิดทางวิชาชีพและสิทธิส่วนบุคคล ประเด็นเรื่องค่าสินไหมทดแทนไม่ควรกระจุกตัวอยู่เฉพาะบิดามารดาเท่านั้น เนื่องจากสิทธิในการมีชีวิตและสุขภาพของทารกในครรภ์เป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ศาลจึงได้เปิดพื้นที่สำหรับการอภิปรายเกี่ยวกับวิธีการตีความกฎหมายที่มีอยู่เพื่อให้แน่ใจว่ามีการคุ้มครองสิทธิของผู้ที่เปราะบางที่สุดอย่างเพียงพอ