คำตัดสินของศาลฎีกาที่ 41393 ปี 2024 นำเสนอการพิจารณาที่สำคัญเกี่ยวกับความรับผิดทางอาญาในกรณีของการบาดเจ็บส่วนบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในบริบททางการค้า ในกรณีนี้ เจ้าของร้านขายยาได้รับการตัดสินให้พ้นผิดจากข้อกล่าวหาประมาทเลินเล่อที่ไม่ติดตั้งแถบกันลื่น หลังจากที่ลูกค้าลื่นล้มบนธรณีประตูหินอ่อนในช่วงวันที่ฝนตก
ศาลได้พิจารณาอุทธรณ์ที่ยื่นโดย B.B. ลูกค้าที่ได้รับบาดเจ็บ ต่อคำตัดสินของศาลเมืองปาโดวา ซึ่งได้ตัดสินให้ A.A. เจ้าของร้านขายยาพ้นผิด ลูกค้าอ้างว่าการขาดแถบกันลื่นเป็นการละเมิดกฎความปลอดภัยในการทำงาน ในขณะที่ศาลเมืองเห็นว่าผู้ประกอบการได้ใช้มาตรการที่เหมาะสม เช่น การใช้พรมเช็ดเท้าเพื่อเช็ดรองเท้าให้แห้ง
ร้านขายยาที่เกิดเหตุต้องถือว่าเป็นสถานที่ทำงาน ดังนั้นจึงใช้บังคับกับกฎหมายป้องกันอุบัติเหตุ
ตามคำตัดสินของศาลฎีกา ศาลเมืองได้กระทำผิดในการตีความกฎการระมัดระวัง โดยอ้างว่าพรมเช็ดเท้าสองผืนสามารถใช้แทนแถบกันลื่นได้ กฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฤษฎีกาฉบับที่ 81/2008 กำหนดให้พื้นต้องกันลื่นและปราศจากความเสี่ยง และไม่สามารถถือว่าการใช้พรมเช็ดเท้าเพียงพอที่จะรับประกันความปลอดภัยได้ ประเด็นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากการขาดมาตรการความปลอดภัยที่เพียงพออาจส่งผลให้เจ้าของสถานประกอบการต้องรับผิดทางอาญา
ศาลยังได้พิจารณาพฤติกรรมของ B.B. ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเร่งฝีเท้าเพื่อออกจากร้านขายยา แม้ว่าความประมาทอาจส่งผลต่อการประเมินความเสียหาย แต่ก็ไม่สามารถยกเว้นความรับผิดของเจ้าของจากการละเมิดกฎความปลอดภัยได้ ศาลฎีกาได้ชี้แจงว่าพฤติกรรมที่ประมาทของลูกค้าในกรณีนี้ ไม่ได้ถึงขั้นที่จะตัดขาดความเชื่อมโยงระหว่างการละเมิดกฎกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
คำตัดสินของศาลฎีกาอาญาที่ 41393 ปี 2024 ถือเป็นการชี้แจงที่สำคัญเกี่ยวกับความรับผิดทางอาญาในกรณีอุบัติเหตุจากการทำงาน โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญสำหรับเจ้าของสถานประกอบการในการปฏิบัติตามกฎความปลอดภัย เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ธุรกิจจะต้องใช้มาตรการทั้งหมดที่จำเป็นเพื่อรับประกันความปลอดภัยของลูกค้า เนื่องจากการละเมิดกฎดังกล่าวอาจส่งผลทางกฎหมายที่สำคัญ นอกจากนี้ คำตัดสินยังเน้นย้ำว่า แม้ว่าพฤติกรรมที่ประมาทของลูกค้าอาจเป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณา แต่ก็ไม่สามารถนำมาใช้เป็นข้ออ้างในการหลีกเลี่ยงความรับผิดในกรณีอุบัติเหตุได้