คำพิพากษาที่ 18328 ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2022 ของศาลฎีกา ให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับความสำคัญของการแจ้งให้จำเลยทราบในกรณีที่มีการเลื่อนการพิจารณาคดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คดีที่พิจารณาเกี่ยวข้องกับการละเลยการแจ้งคำสั่งเลื่อนการพิจารณาคดี ซึ่งเน้นย้ำว่าการขาดการแจ้งดังกล่าวจะก่อให้เกิดความโมฆะในระดับทั่วไปที่มีผลกระทบปานกลาง ประเด็นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรับประกันสิทธิในการต่อสู้คดีและความถูกต้องของกระบวนการพิจารณาคดีอาญา
การอ้างอิงทางกฎหมายหลักในคำพิพากษานี้คือมาตรา 465 ของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งควบคุมการเลื่อนการพิจารณาคดี ศาลได้ยืนยันว่าการละเลยการแจ้งให้จำเลยทราบ ซึ่งยังไม่ได้ถูกประกาศว่าขาดนัดหรือขาดนัดพิจารณา จะส่งผลให้กระบวนการนั้นเป็นโมฆะ หลักการนี้ปกป้องสิทธิของจำเลยในการได้รับแจ้งและมีส่วนร่วมในกระบวนการอย่างแข็งขัน
การละเลยการแจ้งให้จำเลยทราบ ซึ่งยังไม่ได้ถูกประกาศว่าขาดนัดหรือขาดนัดพิจารณา เกี่ยวกับคำสั่งที่ตามมาตรา 465 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ได้สั่งให้เลื่อนการพิจารณาคดีนอกศาล จะก่อให้เกิดความโมฆะในระดับทั่วไปที่มีผลกระทบปานกลาง
ส่วนนี้ของหลักการเน้นย้ำว่าศาลฎีกาตระหนักถึงความสำคัญของการแจ้งให้ทราบเพื่อรับประกันความโปร่งใสและความเป็นธรรมของกระบวนการ ความโมฆะที่มีผลกระทบปานกลางหมายความว่า หากจำเลยไม่ได้รับแจ้งอย่างเพียงพอ กระบวนการอาจเป็นโมฆะ โดยไม่คำนึงถึงการขาดเจตนาหรือเจตนาร้ายของเจ้าหน้าที่ศาล
คำพิพากษาที่ 18328 ปี 2022 ถือเป็นการเตือนที่สำคัญถึงความจำเป็นในการปฏิบัติตามขั้นตอนการแจ้งให้ทราบในกระบวนการพิจารณาคดีอาญา การคุ้มครองสิทธิของจำเลยเป็นเสาหลักที่สำคัญของกฎหมายอาญา และศาลฎีกาได้ย้ำว่าการละเลยใดๆ ในขอบเขตนี้อาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการทั้งหมดได้ กรณีนี้เชิญชวนให้ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายให้ความสนใจกับรายละเอียดของกระบวนการ เพื่อหลีกเลี่ยงความโมฆะที่อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสิทธิของผู้ที่ตนให้ความช่วยเหลือ