คำพิพากษาที่ 27050 ลงวันที่ 12 เมษายน 2023 ของศาลฎีกาได้กล่าวถึงประเด็นที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในกฎหมายอาญา นั่นคือ การแยกแยะระหว่างความผิดฐานทำให้เสียหายโดยมีเหตุอันควรให้เพิ่มโทษ และการกระทำโดยทั่วไปที่ทำให้เสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศาลได้วิเคราะห์กรณีการทำให้กระจกหน้าร้านของสถานประกอบการค้าเสียหาย ซึ่งเกิดขึ้นต่อหน้าพนักงานภายใน โดยได้ยกเว้นการมีอยู่ของเหตุอันควรให้เพิ่มโทษตามที่ประมวลกฎหมายอาญากำหนด
ในข้อเท็จจริงนี้ จำเลย S. M. ได้ทำกระจกหน้าร้านของร้านค้าแตก ซึ่งในขณะเกิดเหตุมีพนักงานอยู่ภายในร้านและสามารถเฝ้าระวังสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอกได้ ศาลได้วินิจฉัยโดยอ้างอิงมาตรา 635 วรรคสอง ข้อ 1 แห่งประมวลกฎหมายอาญาว่า การมีพนักงานอยู่ภายในสถานประกอบการค้าไม่ถือเป็นการนำทรัพย์สินไปไว้ในความคุ้มครองของความเชื่อถือของสาธารณะ
การทำให้กระจกหน้าร้านของสถานประกอบการค้าเสียหาย - การมีอยู่ของเจ้าของ - เหตุอันควรให้เพิ่มโทษในการนำทรัพย์สินไปไว้ในความคุ้มครองของความเชื่อถือของสาธารณะ - การยกเว้น - เหตุผล การกระทำของผู้ที่ทำกระจกหน้าร้านของสถานประกอบการค้าแตก ซึ่งภายในร้านมีพนักงานที่รับผิดชอบอยู่และสามารถรับรู้โดยตรงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอก ไม่ถือเป็นความผิดฐานทำให้เสียหายโดยมีเหตุอันควรให้เพิ่มโทษตามมาตรา 635 วรรคสอง ข้อ 1 แห่งประมวลกฎหมายอาญา โดยอ้างอิงถึงมาตรา 625 วรรคแรก ข้อ 7 แห่งประมวลกฎหมายอาญา เนื่องจาก การเฝ้าระวังโดยตรงและต่อเนื่องโดยผู้ครอบครองทรัพย์สิน ไม่สามารถถือได้ว่าทรัพย์สินนั้นถูกนำไปไว้ในความคุ้มครองของความเชื่อถือของสาธารณะ
คำพิพากษาของศาลฎีกาได้ให้ความกระจ่างที่สำคัญเกี่ยวกับคำจำกัดความของ "ความเชื่อถือของสาธารณะ" ในบริบทของการคุ้มครองทรัพย์สิน การมีอยู่ของเจ้าของหรือพนักงานภายในสถานประกอบการค้าหมายถึงการเฝ้าระวังอย่างแข็งขัน ซึ่งจะยกเว้นความเป็นไปได้ที่จะพิจารณาทรัพย์สินนั้นว่าถูกนำไปไว้ในความคุ้มครองของความเชื่อถือของสาธารณะ ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 625 วรรคแรก ข้อ 7 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
โดยสรุป คำพิพากษาที่ 27050 ปี 2023 ถือเป็นจุดอ้างอิงที่สำคัญในการทำความเข้าใจพลวัตและความรับผิดชอบที่เกี่ยวข้องกับการทำให้ทรัพย์สินทางการค้าเสียหาย การวิเคราะห์การเฝ้าระวังและการมีอยู่ของพนักงานภายในสถานประกอบการค้าเน้นย้ำว่าการคุ้มครองทางกฎหมายของทรัพย์สินไม่สามารถแยกออกจากการพิจารณาความเป็นจริงของสถานการณ์ที่เกิดความเสียหายได้ แนวทางของศาลนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อนักวิชาชีพด้านกฎหมายและผู้ประกอบการ เนื่องจากมีเครื่องมือในการป้องกันและให้ความกระจ่างเกี่ยวกับสิ่งที่ถือเป็นเหตุอันควรให้เพิ่มโทษในความผิดฐานทำให้เสียหาย