คำพิพากษาล่าสุดที่ 39688 ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2023 ซึ่งออกโดยศาลฎีกา ได้กล่าวถึงประเด็นสำคัญเกี่ยวกับอาชญากรรมต่อบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการรวมเอาความผิดฐานฆาตกรรมเข้าไว้ในความผิดฐานกระทำการข่มเหง ประเด็นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งสำหรับการปฏิบัติงานทางกฎหมายและการทำความเข้าใจระบบกฎหมายอาญาของอิตาลี
คำพิพากษาได้กำหนดว่า ตามมาตรา 84 วรรคแรกของประมวลกฎหมายอาญา ความผิดฐานฆาตกรรมที่กระทำโดยผู้กระทำที่ได้กระทำการข่มเหงต่อเหยื่อรายเดียวกันแล้ว อาจรวมเอาความผิดตามมาตรา 612-bis ของประมวลกฎหมายอาญา อย่างไรก็ตาม การรวมนี้ขึ้นอยู่กับการฟ้องร้องข้อหาที่เข้าข่ายเป็นเหตุให้เพิ่มโทษตามมาตรา 576 วรรคแรก ข้อ 5.1 ของประมวลกฎหมายอาญา
การฆาตกรรมที่กระทำโดยผู้กระทำความผิดฐานกระทำการข่มเหงต่อบุคคลผู้ถูกกระทำรายเดียวกัน - ความสัมพันธ์กับความผิดตามมาตรา 612-bis ประมวลกฎหมายอาญา - ความผิดที่ซับซ้อนพร้อมเหตุที่เพิ่มโทษ - เงื่อนไข - การฟ้องร้องข้อหาตามมาตรา 576 วรรค 1 ข้อ 5.1 ประมวลกฎหมายอาญา และการเพิ่มโทษ - ความจำเป็น - เหตุผล - กรณีศึกษา ในเรื่องอาชญากรรมต่อบุคคล ความผิดฐานฆาตกรรมที่กระทำโดยผู้ที่ได้กระทำการข่มเหงต่อบุคคลผู้ถูกกระทำรายเดียวกัน จะรวมเอาความผิดตามมาตรา 612-bis ประมวลกฎหมายอาญา ตามมาตรา 84 วรรคแรก ประมวลกฎหมายอาญา ก็ต่อเมื่อเกี่ยวข้องกับความผิดที่ร้ายแรงกว่านั้น ได้มีการฟ้องร้องข้อหาที่เข้าข่ายเป็นเหตุให้เพิ่มโทษตามมาตรา 576 วรรคแรก ข้อ 5.1 ประมวลกฎหมายอาญา และมีการเพิ่มโทษตามนั้นจริง ๆ มิฉะนั้น จะไม่เกิดการลงโทษซ้ำซ้อนที่กฎหมายว่าด้วยความผิดที่ซับซ้อนต้องการหลีกเลี่ยง (กรณีที่ไม่อนุญาตให้นำมาตรา 84 ประมวลกฎหมายอาญามาใช้บังคับกับจำเลยที่อ้างว่าความผิดตามมาตรา 612-bis ประมวลกฎหมายอาญา ถูกรวมเข้ากับความผิดฐานพยายามฆ่าธรรมดา ซึ่งเป็นเรื่องที่เคยมีคำพิพากษาลงโทษถึงที่สุดแล้ว)
คำตัดสินของศาลฎีกาไม่เพียงแต่ชี้แจงหลักการทางกฎหมายที่นำมาใช้ แต่ยังให้ข้อคิดเกี่ยวกับพลวัตของกฎหมายอาญาของอิตาลี นัยของคำพิพากษานี้สามารถสรุปได้ดังนี้:
โดยสรุป คำพิพากษาที่ 39688 ปี 2023 ถือเป็นก้าวสำคัญในการทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างการฆาตกรรมและการกระทำอันเป็นการข่มเหง โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการฟ้องร้องข้อหาที่เข้าข่ายเป็นเหตุให้เพิ่มโทษ เพื่อให้แน่ใจว่าโทษจะสอดคล้องกับความร้ายแรงของอาชญากรรม กรณีนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าคำพิพากษาสามารถมีอิทธิพลต่อการปฏิบัติทางกฎหมายและการคุ้มครองเหยื่อในสถานการณ์ความรุนแรงได้อย่างไร