คำพิพากษาล่าสุดที่ 32712 เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2024 ของศาลฎีกา (Corte di Cassazione) ได้นำประเด็นสำคัญเกี่ยวกับนิยามของการกระทำที่เป็นการก่อการร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของความขัดแย้งด้วยอาวุธ กลับมาสู่ความสนใจอีกครั้ง การตัดสินใจนี้เป็นส่วนหนึ่งของการอภิปรายทางกฎหมายที่ทันสมัย ซึ่งกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายภายในประเทศมาบรรจบกัน ก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการคุ้มครองพลเรือนและความชอบธรรมของการดำเนินการทางทหาร
ศาลได้พิจารณาคดีของ Y. A. K. A. ซึ่งถูกกล่าวหาว่ากระทำการก่อการร้ายตามมาตรา 270-sexies แห่งประมวลกฎหมายอาญาของอิตาลี คำพิพากษาอ้างอิงถึงอนุสัญญานิวยอร์กเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 1999 ซึ่งอิตาลีให้สัตยาบัน ซึ่งควบคุมการให้เงินสนับสนุนการก่อการร้ายและนิยามการกระทำที่เป็นการก่อการร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศาลได้ตัดสินว่าการกระทำที่ใช้ความรุนแรง แม้จะเกิดขึ้นในบริบทของความขัดแย้งด้วยอาวุธ ก็อาจถือเป็นการกระทำที่เป็นการก่อการร้ายได้ หากมุ่งเป้าไปที่พลเรือนในดินแดนที่ถูกยึดครองอย่างผิดกฎหมาย
องค์กรก่อการร้าย - การกระทำที่เป็นการก่อการร้ายตามมาตรา 270-sexies แห่งประมวลกฎหมายอาญา และอนุสัญญานิวยอร์กเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 1999 - บริบทของความขัดแย้งด้วยอาวุธ - ความเข้ากันได้ - เงื่อนไข ในเรื่ององค์กรก่อการร้าย ตามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการปราบปรามการให้เงินสนับสนุนการก่อการร้าย ซึ่งลงนามที่นิวยอร์กเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 1999 และอิตาลีให้สัตยาบันด้วยกฎหมายที่ 7 วันที่ 14 มกราคม 2003 การกระทำที่ใช้ความรุนแรง ซึ่งแม้จะอยู่ในบริบทของความขัดแย้งด้วยอาวุธ แต่มีเป้าหมายต่อพลเรือนที่อยู่ในดินแดนซึ่งตามกฎหมายระหว่างประเทศถือว่าถูกยึดครองอย่างผิดกฎหมาย จะถือเป็นการกระทำที่เป็นการก่อการร้ายต่อรัฐต่างประเทศ
คำพิพากษาที่ 32712 ปี 2024 โดดเด่นด้วยแนวทางที่เข้มงวดในการนิยามว่าอะไรคือการก่อการร้ายในบริบทของความขัดแย้งด้วยอาวุธ คำพิพากษานี้ชี้แจงว่าการกระทำที่เกิดขึ้นในบริบทของสงครามเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะยกเว้นจากการนิยามการก่อการร้าย แต่ให้ความสำคัญกับลักษณะและเป้าหมายของการกระทำที่ก่อขึ้น หากการกระทำเหล่านั้นมุ่งเป้าไปที่พลเรือน ก็อาจถือเป็นการก่อการร้ายได้ แม้ว่าจะเกิดขึ้นในกรอบของความขัดแย้งก็ตาม
โดยสรุป คำพิพากษาที่ 32712 ปี 2024 ถือเป็นก้าวสำคัญในแนวคำพิพากษาของอิตาลีเกี่ยวกับเรื่องการก่อการร้าย คำพิพากษานี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและชีวิตพลเรือน แม้ในบริบทของความขัดแย้ง โดยอ้างถึงพันธกรณีของรัฐในการปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ การตัดสินใจของศาลอาจมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อกฎหมายในอนาคตและนโยบายความมั่นคง โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นของแนวทางที่คำนึงถึงมนุษยธรรมและตระหนักรู้มากขึ้นต่อพลวัตของความขัดแย้งและการก่อการร้าย