คำพิพากษาที่ 24334 เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2023 ของศาลฎีกา (Corte di Cassazione) ได้ให้ข้อคิดที่สำคัญเกี่ยวกับการกระทำความผิดฐานยักยอกทรัพย์สิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการแยกแยะระหว่างทรัพย์สินที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม คดีนี้เกี่ยวข้องกับ A.A. พนักงานของ Equitalia ซึ่งถูกตัดสินลงโทษในข้อหาทุจริตเงินผ่านการชดเชยที่ผิดกฎหมาย บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์เหตุผลของคำพิพากษาและผลกระทบในบริบทของกฎหมายอาญาอิตาลี
A.A. ถูกตัดสินลงโทษในข้อหาทุจริตเงินจำนวน 47,158 ยูโร โดยใช้สิทธิเรียกร้องทางภาษีของผู้อื่นเพื่อชำระหนี้ที่ถูกเรียกเก็บ ศาลอุทธรณ์เมืองเนเปิลส์ (Corte di Appello di Napoli) ได้ยืนยันคำพิพากษาของศาลชั้นต้น โดยชี้ให้เห็นว่าการกระทำของผู้ยื่นอุทธรณ์ถือเป็นการละเมิดมาตรา 314 แห่งประมวลกฎหมายอาญาว่าด้วยการยักยอกทรัพย์สินอย่างชัดเจน ฝ่ายจำเลยของ A.A. ได้ยกเหตุผลในการอุทธรณ์หลายประการ โดยอ้างว่าไม่ใช่การทุจริตทรัพย์สินที่เป็นรูปธรรม แต่เป็นสิทธิเรียกร้อง และจำเลยไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ
ศาลได้ตัดสินว่าแม้แต่ทรัพย์สินนามธรรม เช่น สิทธิเรียกร้อง ก็สามารถเป็นวัตถุของการทุจริตภายใต้การยักยอกทรัพย์สินได้
ศาลฎีกาได้ปฏิเสธเหตุผลในการอุทธรณ์ โดยยืนยันว่าการยักยอกทรัพย์สินสามารถครอบคลุมถึงทรัพย์สินนามธรรม เช่น สิทธิเรียกร้องได้ หลักการนี้หยั่งรากลึกในคำพิพากษาของศาล เนื่องจากทรัพย์สินนามธรรมสามารถมีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่ประเมินค่าได้ ศาลยังได้เน้นย้ำว่าการทุจริตเกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ใช้เงินที่โดยรูปแบบแล้วเป็นของผู้อื่น แม้ว่าความเสียหายต่อทรัพย์สินของหน่วยงานรัฐโดยตรงจะไม่ชัดเจนก็ตาม
คำพิพากษา Cass. pen. n. 24334 ปี 2023 ถือเป็นก้าวสำคัญในการกำหนดความผิดฐานยักยอกทรัพย์สิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการทุจริตทรัพย์สินนามธรรม ศาลได้ยืนยันอีกครั้งว่าการยักยอกทรัพย์สินเกิดขึ้นแม้จะไม่มีความเสียหายโดยตรงต่อหน่วยงานรัฐ โดยเน้นย้ำถึงความชอบด้วยกฎหมายและความเป็นกลางของเจ้าหน้าที่รัฐ คำพิพากษานี้จะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อคำพิพากษาในอนาคต โดยจะชี้แจงขอบเขตของความผิดนี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นในบริบทของกฎหมายอาญาอิตาลี