คำพิพากษาที่ 37236 ของศาลฎีกา ซึ่งยื่นเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2024 ได้กล่าวถึงประเด็นที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในด้านกฎหมายสิ่งแวดล้อม นั่นคือ การเผาขยะโดยผิดกฎหมาย คำตัดสินนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยืนยันความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อม โดยชี้แจงว่าการรอลงอาญาอาจขึ้นอยู่กับการฟื้นฟูสภาพพื้นที่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการชำระค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูด้วย โดยไม่คำนึงว่าผู้กระทำผิดจะเป็นเจ้าของที่ดินที่ได้รับผลกระทบหรือไม่
ศาลได้อ้างถึงมาตรา 256-bis วรรค 1 ของพระราชกฤษฎีกาฉบับที่ 152 ลงวันที่ 3 เมษายน 2006 ซึ่งกำหนดภาระหน้าที่อย่างชัดเจนสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ที่ปนเปื้อน มาตรานี้แสดงเจตนารมณ์ของฝ่ายนิติบัญญัติอย่างชัดเจนในการปกป้องสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดความรับผิดชอบไม่เพียงแต่เจ้าของเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ที่ก่อให้เกิดความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมในทางใดทางหนึ่งด้วย
ความผิดฐานเผาขยะโดยผิดกฎหมาย - การรอลงอาญาโดยมีเงื่อนไขให้ฟื้นฟูสภาพพื้นที่และชำระค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟู - ภาระหน้าที่ของผู้กระทำผิดที่ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน - ความชอบด้วยกฎหมาย - เหตุผล ในเรื่องการเผาขยะโดยผิดกฎหมาย การรอลงอาญาโดยมีเงื่อนไขให้ฟื้นฟูสภาพพื้นที่และชำระค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูถือว่าชอบด้วยกฎหมาย แม้ว่าผู้กระทำผิดจะไม่ใช่เจ้าของที่ดินที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำที่ผิดกฎหมายก็ตาม เนื่องจากเป็นภาระหน้าที่ที่กำหนดไว้โดยชัดแจ้งในมาตรา 256-bis วรรค 1 ส่วนสุดท้าย ของพระราชกฤษฎีกาฉบับที่ 152 ลงวันที่ 3 เมษายน 2006 ซึ่งกำหนดภาระหน้าที่สำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ที่ปนเปื้อน แม้จะเป็นเพียงการสัมผัสโดยข้อเท็จจริงก็ตาม
คำพิพากษานี้มีนัยสำคัญในทางปฏิบัติ โดยกำหนดว่าใครก็ตามที่กระทำความผิดฐานเผาขยะ แม้ว่าจะไม่ใช่เจ้าของที่ดิน ก็มีหน้าที่ต้องฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟู ซึ่งหมายความว่าผู้รับผิดชอบต่อการกระทำที่ผิดกฎหมายดังกล่าวไม่สามารถหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบของตนได้ ซึ่งมีส่วนช่วยในการปกป้องสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น
คำพิพากษาที่ 37236 ปี 2024 ถือเป็นการยืนยันหลักการความรับผิดชอบและการปกป้องสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินการแบบบูรณาการในการต่อสู้กับการเผาขยะโดยผิดกฎหมาย ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีบทบาทในการดำเนินการ ศาลฎีกาด้วยการตัดสินใจครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เสริมสร้างกรอบกฎหมายที่มีอยู่ แต่ยังส่งสารที่ชัดเจนว่าการปกป้องสิ่งแวดล้อมเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน