คำพิพากษาที่ 19475 ลงวันที่ 15 กรกฎาคม 2024 ซึ่งออกโดยศาลฎีกา (Corte di Cassazione) ได้ให้ข้อคิดที่สำคัญเกี่ยวกับกระบวนการที่จำเป็นในการพิจารณาของศาลฎีกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการยื่นใบรับรองการส่งหมายคำพิพากษาที่ถูกอุทธรณ์ คำสั่งนี้เน้นย้ำถึงการไม่สามารถดำเนินคดีต่อไปได้ในกรณีที่ไม่มีการยื่นเอกสารดังกล่าว โดยชี้ให้เห็นถึงวัตถุประสงค์สาธารณะที่การปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้มุ่งหวัง
ตามมาตรา 369 วรรค 2 ข้อ 2 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (c.p.c.) การยื่นใบรับรองการส่งหมายคำพิพากษาเป็นขั้นตอนที่สำคัญและเป็นเบื้องต้น ศาลได้ตัดสินว่าการขาดเอกสารนี้จะนำไปสู่การไม่สามารถดำเนินคดีต่อไปได้ ซึ่งการตัดสินใจนี้ไม่ขัดต่อหลักการรัฐธรรมนูญของกระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้องและสิทธิในการต่อสู้คดี ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 24 และ 111 ของรัฐธรรมนูญอิตาลี และมาตรา 6 ของอนุสัญญายุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (CEDU)
การไม่มีอยู่จริง - พื้นฐาน ในส่วนที่เกี่ยวกับการพิจารณาของศาลฎีกา การไม่ยื่นใบรับรองการส่งหมายคำพิพากษาที่ถูกอุทธรณ์ จะส่งผลให้การดำเนินคดีไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ตามมาตรา 369 วรรค 2 ข้อ 2 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และการลงโทษนี้ไม่ขัดต่อมาตรา 24 และ 111 แห่งรัฐธรรมนูญ และมาตรา 6 แห่งอนุสัญญายุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชน เนื่องจากเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นที่ไม่ได้มีภาระหรือความซับซ้อนแต่อย่างใด ซึ่งไม่ได้ตั้งคำถามถึงสิทธิในการต่อสู้คดีและกระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบในผลประโยชน์สาธารณะเกี่ยวกับการสิ้นสุดของคำตัดสินในเนื้อหาคดี และเพื่อคัดเลือกกระบวนการที่เหมาะสมที่สุดในการยุติข้อพิพาท
คำตัดสินของศาลเน้นย้ำว่าการไม่ยื่นใบรับรองการส่งหมายไม่ใช่เพียงแค่เรื่องรูปแบบ แต่มีความสำคัญในเนื้อหาในการรับประกันประสิทธิภาพและความชัดเจนของกระบวนการ ผลที่ตามมาของการละเลยสามารถสรุปได้ดังนี้:
ดังนั้น ศาลฎีกาจึงทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ระบบกฎหมาย โดยรับรองว่าทุกขั้นตอนได้รับการปฏิบัติตามเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไปอย่างราบรื่น
โดยสรุป คำสั่งที่ 19475/2024 ถือเป็นการยืนยันที่สำคัญถึงความจำเป็นในการปฏิบัติตามขั้นตอนในการพิจารณาของศาลฎีกาอย่างเคร่งครัด การไม่ยื่นใบรับรองการส่งหมายไม่เพียงแต่นำไปสู่การไม่สามารถดำเนินคดีต่อไปได้ แต่ยังเป็นการรับประกันการเคารพหลักการแห่งความยุติธรรมและความโปร่งใสอีกด้วย เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทนายความและลูกความของพวกเขาที่จะต้องเข้าใจความสำคัญของข้อกำหนดเหล่านี้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ข้อผิดพลาดทางรูปแบบส่งผลกระทบต่อสิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม