คำพิพากษาล่าสุดที่ 15636 เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2023 ซึ่งออกโดยศาลฎีกา (Corte di Cassazione) ได้นำเสนอข้อคิดที่สำคัญเกี่ยวกับกระบวนการเพิกถอนการยึดทรัพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำพิพากษานี้เน้นย้ำถึงภาระผูกพันในการจัดให้มีการรับฟังคู่กรณีระหว่างฝ่ายต่างๆ ในกรณีที่มีการคัดค้านคำสั่งปฏิเสธคำร้องขอเพิกถอน แต่การตัดสินใจนี้มีความหมายอย่างไรในทางปฏิบัติ และมีผลกระทบอย่างไรบ้าง?
ศาลฎีกาได้พิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับบริษัท Autostrada del Brennero S.p.A. ซึ่งผู้พิพากษาในชั้นบังคับคดีได้ปฏิเสธคำร้องขอเพิกถอนการยึดทรัพย์หลังจากมีการไต่สวนในห้องพิจารณาคดี ศาลได้วินิจฉัยว่า ตามมาตรา 666 วรรค 3 และ 4 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา การคัดค้านจะต้องได้รับการตัดสินโดยผ่านการรับฟังคู่กรณี มิฉะนั้นคำสั่งดังกล่าวจะถือเป็นโมฆะโดยเด็ดขาด
การรับฟังคู่กรณีเป็นหลักการพื้นฐานของกฎหมายวิธีพิจารณาความ ซึ่งรับประกันสิทธิของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในกระบวนการในการได้รับการรับฟังและนำเสนอข้อโต้แย้งของตน คำพิพากษาที่พิจารณานี้ตอกย้ำว่า การละเลยขั้นตอนดังกล่าวอาจนำไปสู่ผลกระทบร้ายแรง เช่น การทำให้การกระทำนั้นเป็นโมฆะ
การยึดทรัพย์ - คำร้องขอเพิกถอนถูกปฏิเสธโดยผู้พิพากษาในชั้นบังคับคดีในชั้นต้นหลังจากการไต่สวนในห้องพิจารณาคดี แทนที่จะเป็นการตัดสินโดยทันที - การคัดค้าน - กระบวนการ - การจัดให้มีการรับฟังคู่กรณี - ความจำเป็น - การละเลย - ผลกระทบ ในประเด็นเรื่องการยึดทรัพย์ การคัดค้านคำสั่งปฏิเสธคำร้องขอเพิกถอนที่ออกโดยผู้พิพากษาในชั้นบังคับคดีภายหลังการไต่สวนในห้องพิจารณาคดี แทนที่จะเป็นการตัดสินโดยทันที จะต้องได้รับการตัดสิน โดยมิฉะนั้นคำสั่งนั้นจะเป็นโมฆะโดยเด็ดขาด โดยต้องจัดให้มีการรับฟังคู่กรณีระหว่างฝ่ายต่างๆ ก่อน ตามมาตรา 666 วรรค 3 และ 4 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
คำพิพากษาที่ 15636/2023 ไม่ใช่เพียงแค่กรณีเฉพาะ แต่เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มคำพิพากษาที่กว้างขึ้น ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรับฟังคู่กรณีในทุกขั้นตอนของกระบวนการพิจารณาคดีอาญา ศาลได้อ้างอิงถึงคำพิพากษาในอดีต เช่น คำพิพากษาที่ 13952/2021 เพื่อยืนยันความจำเป็นของกระบวนการที่ยุติธรรม ซึ่งทุกฝ่ายมีโอกาสในการแสดงเหตุผลของตน
โดยสรุป คำพิพากษาที่ 15636/2023 ถือเป็นก้าวสำคัญสู่การคุ้มครองสิทธิของบุคคลที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยึดทรัพย์ให้ดียิ่งขึ้น ภาระผูกพันในการจัดให้มีการรับฟังคู่กรณีไม่เพียงแต่เป็นหลักการทางกฎหมาย แต่ยังเป็นการรับประกันพื้นฐานสำหรับการทำงานที่ถูกต้องของระบบยุติธรรม เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ผู้ปฏิบัติงานด้านกฎหมายทุกคนจะต้องรับทราบข้อบ่งชี้เหล่านี้ เพื่อร่วมกันสร้างระบบกฎหมายที่ยุติธรรมและโปร่งใสยิ่งขึ้น