คำพิพากษาที่ 27148 ลงวันที่ 17 พฤษภาคม 2023 ถือเป็นจุดอ้างอิงที่สำคัญในเรื่องความรับผิดของนิติบุคคลสำหรับความผิดทางสิ่งแวดล้อม คำพิพากษานี้ออกโดยศาลฎีกา ได้ชี้แจงเงื่อนไขที่จำเป็นเพื่อให้แบบจำลองการจัดองค์กรและการจัดการถือว่ามีประสิทธิภาพ และดังนั้นจึงได้รับการยกเว้นจากความรับผิดทางอาญาสำหรับนิติบุคคล บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ประเด็นหลักของคำพิพากษา โดยเน้นความหมายและผลกระทบในทางปฏิบัติ
ตามคำพิพากษา เพื่อให้แบบจำลองการจัดองค์กรและการจัดการมีผลในการยกเว้นความผิด จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องนำมาใช้โดยอ้างอิงจากโครงสร้างและประเภทกิจกรรมเฉพาะของธุรกิจ ซึ่งหมายความว่าแต่ละนิติบุคคลต้องปรับแบบจำลองของตนเองให้เหมาะสมกับลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะของตน
ความผิดทางสิ่งแวดล้อม - ความรับผิดของนิติบุคคล - ประสิทธิภาพในการยกเว้นความผิดของแบบจำลองการจัดองค์กรและการจัดการ - เงื่อนไข - ข้อบ่งชี้ ในเรื่องความรับผิดของนิติบุคคลสำหรับความผิดทางสิ่งแวดล้อม แบบจำลองการจัดองค์กรและการจัดการ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการยกเว้นความผิด จะต้องนำมาใช้โดยอ้างอิงจากโครงสร้างและประเภทกิจกรรมเฉพาะของธุรกิจ โดยกำหนดหน้าที่ ความรับผิดชอบของแต่ละบุคคล และเครื่องมือที่เป็นรูปธรรมที่มุ่งป้องกันการกระทำความผิดต่อสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจนและแม่นยำ และจะต้องนำไปปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ ยกเว้นในกรณีที่ระบุไว้ในมาตรา 6 วรรค 4 และ 4-bis แห่งพระราชกฤษฎีกาฉบับที่ 231 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2001 โดยการจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลที่มีอำนาจในการควบคุมที่เป็นรูปธรรม และการกำหนดระบบการทบทวนเป็นระยะ ซึ่งรับประกันความคงทนของแบบจำลองนั้นเมื่อเวลาผ่านไป
ศาลเน้นย้ำว่าการนำแบบจำลองมาใช้เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ แต่ต้องนำไปปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหมายความว่าธุรกิจต้องลงทุนในการฝึกอบรมบุคลากรและการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งเน้นการปฏิบัติตามกฎหมาย นอกจากนี้ หน่วยงานกำกับดูแลต้องมีอำนาจที่แท้จริงในการติดตามและรับประกันการบังคับใช้มาตรการป้องกัน
คำพิพากษาที่ 27148/2023 ถือเป็นก้าวสำคัญในการต่อสู้กับความผิดทางสิ่งแวดล้อม โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของแบบจำลองการจัดการที่เหมาะสมและนำไปปฏิบัติ ธุรกิจต่างๆ ถูกเรียกให้พิจารณาการจัดองค์กรภายในของตนอย่างจริงจัง และลงทุนในการป้องกัน ไม่เพียงแต่เพื่อหลีกเลี่ยงการลงโทษ แต่ยังเพื่อมีส่วนร่วมในสภาพแวดล้อมที่สะอาดและยั่งยืนยิ่งขึ้น