คำตัดสินล่าสุดของศาลฎีกา แผนกที่ 3 เลขที่ 8169 ปี 2022 ได้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับคดีการทารุณกรรมในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของสถานดูแลผู้สูงอายุ ศาลได้ยืนยันคำตัดสินลงโทษ R.L. และ T.M. สำหรับพฤติกรรมที่ไม่สามารถยอมรับได้ต่อผู้สูงอายุ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการคุ้มครองบุคคลที่อ่อนแอ และหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือของผู้ที่มีอำนาจ
คดีความเริ่มต้นด้วยคำตัดสินลงโทษโดยผู้พิพากษาศาลชั้นต้น (G.U.P.) แห่งโบโลญญา ซึ่งตัดสินว่า R.L. และ T.M. มีความผิดฐานทารุณกรรมผู้พักอาศัยในสถานดูแล ความผิดที่ถูกกล่าวหา ได้แก่ การทารุณกรรมทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร้ายแรงของพฤติกรรม
ศาลได้เน้นย้ำว่าพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานโดยตรงเท่านั้น แต่ยังสร้างบรรยากาศของความหวาดกลัวและการยอมจำนนในหมู่ผู้พักอาศัยอีกด้วย
ศาลฎีกาได้ปฏิเสธคำร้องอุทธรณ์ของจำเลย โดยยืนยันว่าหลักฐานที่รวบรวมได้ รวมถึงคำให้การของพยานและการบันทึกภาพในสถานที่ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการกดขี่ที่ผู้สูงอายุได้รับ มีการยืนยันอีกครั้งถึงการบังคับใช้มาตรา 572 ประมวลกฎหมายอาญา (c.p.) ไม่เพียงแต่ในบริบทของครอบครัวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกับครอบครัว เช่น ในสถานดูแล
ศาลยังได้เน้นย้ำว่าความเปราะบางของผู้สูงอายุ ประกอบกับตำแหน่งอำนาจของผู้ยื่นอุทธรณ์ เป็นเหตุผลในการเพิ่มโทษ คำตัดสินนี้ถือเป็นบรรทัดฐานที่สำคัญในการคุ้มครองบุคคลที่อ่อนแอ โดยเน้นย้ำถึงความรับผิดชอบของผู้ที่บริหารจัดการสถานดูแล
คำตัดสินที่วิเคราะห์นี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการคุ้มครองสิทธิของผู้สูงอายุและบุคคลที่อ่อนแอ เป็นการยืนยันหลักการที่ว่าผู้ที่มีหน้าที่ดูแลต้องปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเคารพและศักดิ์ศรี และไม่สามารถใช้ประโยชน์จากตำแหน่งของตนเพื่อก่ออาชญากรรมได้ คำพิพากษาในสาขานี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการรับประกันความปลอดภัยและศักดิ์ศรีของบุคคลที่เปราะบางที่สุดในสังคมของเรา