คำพิพากษาล่าสุดของศาลฎีกา Cassazione, เลขที่ 44742 ปี 2024, ได้ให้ข้อคิดที่สำคัญเกี่ยวกับการรับผิดชอบของผู้บริหารในกรณีของการล้มละลายโดยฉ้อฉล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คดีที่พิจารณาเกี่ยวข้องกับ A. A. อดีตผู้บริหารของ Macor Srl ซึ่งถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานล้มละลายโดยฉ้อฉลเกี่ยวกับทรัพย์สินและเอกสาร ศาลได้ยอมรับคำร้องบางส่วนและยกเลิกคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์กรุงโรมในส่วนที่เกี่ยวกับการล้มละลายเกี่ยวกับทรัพย์สิน โดยเน้นย้ำถึงข้อบกพร่องบางประการในเหตุผลของผู้พิพากษาชั้นต้น
คำร้องของ A. A. ตั้งอยู่บนพื้นฐานของเหตุผลหลักสี่ประการ เหตุผลสองประการแรกโต้แย้งการประเมินการล้มละลายเกี่ยวกับทรัพย์สิน โดยเน้นว่าการยักยอกทรัพย์สินถูกอนุมานจากข้อมูลบัญชีเท่านั้น โดยไม่มีหลักฐานที่เป็นรูปธรรมของการยักยอกทรัพย์สินจริง ศาลยอมรับความถูกต้องของการคัดค้านเหล่านี้ โดยระบุว่าการล้มละลายเกี่ยวกับทรัพย์สินไม่สามารถตีความได้จากข้อมูลบัญชีเพียงอย่างเดียว แต่ต้องได้รับการสนับสนุนด้วยหลักฐานที่เป็นรูปธรรมของการยักยอกทรัพย์สิน
การล้มละลายโดยฉ้อฉลเกี่ยวกับทรัพย์สินเกิดขึ้นจากการละเมิดผลประโยชน์ของผู้ให้กู้ในการรักษาความสมบูรณ์ของทรัพย์สินของผู้ประกอบการ
คำพิพากษาเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการจัดทำเอกสารบัญชีที่ถูกต้องและสมบูรณ์โดยผู้บริหาร อันที่จริง ศาลได้เน้นย้ำว่าการไม่สามารถสร้างสถานะทางการเงินของบริษัทขึ้นใหม่ได้ เนื่องจากการจัดทำเอกสารบัญชีที่ไม่ดี ถือเป็นความผิดฐานล้มละลายเกี่ยวกับเอกสาร ประเด็นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากสะท้อนถึงภาระหน้าที่ของผู้บริหารในการรับประกันความโปร่งใสและความชัดเจนในการบริหารจัดการบริษัท
โดยสรุป คำพิพากษา Cass. pen., เลขที่ 44742 ปี 2024, ถือเป็นจุดอ้างอิงที่สำคัญสำหรับหลักนิติศาสตร์ในเรื่องการล้มละลายโดยฉ้อฉล เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการบริหารจัดการทรัพย์สินและบัญชีอย่างรอบคอบโดยผู้บริหาร โดยเน้นว่าการมีอยู่เพียงข้อมูลบัญชีไม่สามารถพิสูจน์การขาดหลักฐานที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับการยักยอกทรัพย์สินได้ ดังนั้น คำพิพากษาฉบับนี้จึงให้ข้อคิดที่เป็นประโยชน์ทั้งสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและผู้ประกอบการ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการบริหารจัดการธุรกิจที่ถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงผลทางกฎหมายที่สำคัญ