คำพิพากษาที่ 2364/2024 ซึ่งออกโดยศาลฎีกา (Corte di Cassazione) เกี่ยวข้องกับประเด็นที่สำคัญในกฎหมายอาญา: เหตุการณ์ที่ทำให้การลักทรัพย์รถยนต์มีความร้ายแรงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คดีนี้พิจารณาว่ารถยนต์ที่ถูกทิ้งไว้โดยไม่มีผู้ดูแลบนถนนสาธารณะ โดยมีประตูเปิดและกุญแจอยู่ในแผงหน้าปัด สามารถถือว่าถูกเปิดเผยต่อสาธารณะได้หรือไม่ ประเด็นนี้ไม่เพียงแต่มีความสำคัญทางกฎหมายเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญในทางปฏิบัติสำหรับประชาชนด้วย
ศาลได้ปฏิเสธคำร้องของ M. P.M. L. โดยยืนยันคำตัดสินของศาลเพื่อเสรีภาพแห่งกรุงโรมเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2024 ประเด็นหลักเกี่ยวข้องกับการตีความมาตรา 625 วรรค 7 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ทำให้การลักทรัพย์มีความร้ายแรงขึ้น ศาลได้ยืนยันว่ารถยนต์ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ถือเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้การลักทรัพย์มีความร้ายแรงขึ้นตามที่กฎหมายกำหนด แม้ว่าจะถูกทิ้งไว้ในสภาพที่อ่อนแออย่างเห็นได้ชัดก็ตาม
รถยนต์ที่ถูกทิ้งไว้โดยไม่มีผู้ดูแลบนถนนสาธารณะ โดยที่ประตูไม่ได้ปิดและกุญแจเสียบอยู่ในแผงหน้าปัด - เหตุการณ์ที่ทำให้การลักทรัพย์มีความร้ายแรงขึ้นเนื่องจากถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ - การมีอยู่จริง ในเรื่องของการลักทรัพย์รถยนต์ที่จอดอยู่บนถนนสาธารณะหรือในสถานที่ส่วนบุคคลที่ประชาชนเข้าถึงได้ เหตุการณ์ที่ทำให้การลักทรัพย์มีความร้ายแรงขึ้นเนื่องจากทรัพย์สินถูกเปิดเผยต่อสาธารณะโดยความจำเป็นหรือตามธรรมเนียมปฏิบัติ จะมีอยู่จริง แม้ในกรณีที่รถยนต์ไม่ได้ปิดประตูและกุญแจเสียบอยู่ในแผงหน้าปัดก็ตาม (อ้างอิง: n. 10192 ปี 1977, Rv. 136633-01; n. 164 ปี 1988, dep. 1990, Rv. 183007-01)
คำพิพากษานี้มีนัยสำคัญทั้งต่อเจ้าของรถยนต์และผู้ประกอบวิชาชีพด้านกฎหมาย ประการแรก คำพิพากษานี้ชี้แจงว่าความรับผิดชอบของเจ้าของรถยนต์ไม่ได้สิ้นสุดลงเพียงแค่การจอดรถเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการดูแลและการปกป้องทรัพย์สินด้วย นอกจากนี้ คำตัดสินของศาลฎีกายังเน้นย้ำว่าการเปิดเผยต่อสาธารณะไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจตนาของเจ้าของเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับสภาพวัตถุประสงค์ที่รถยนต์ตกอยู่ในสภาพนั้นด้วย
โดยสรุป คำพิพากษาที่ 2364/2024 ถือเป็นก้าวสำคัญในการกำหนดความรับผิดชอบทางกฎหมายในกรณีการลักทรัพย์รถยนต์ เจ้าของรถต้องตระหนักว่าการจอดรถเพียงอย่างเดียวไม่ได้ยกเว้นความรับผิดชอบในการปกป้องรถยนต์ คำตัดสินนี้เตือนเราว่ากฎหมายอิตาลี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากแนวคำพิพากษา ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความรับผิดชอบส่วนบุคคลและการป้องกันอาชญากรรม