คำพิพากษาเลขที่ 24920 ปี 2024 ของศาลฎีกาได้ให้ข้อคิดที่สำคัญเกี่ยวกับความรับผิดทางแพ่งในบริบทของอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีผู้โดยสารที่ถูกพาโดยผู้ขับขี่ที่อยู่ในภาวะมึนเมา กรณีที่พิจารณาเกี่ยวข้องกับ A.A. ซึ่งหลังจากเกิดอุบัติเหตุ ได้เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนสำหรับความเสียหายที่ได้รับ แต่ถูกตัดสินว่ามีส่วนผิดร่วมกันเนื่องจากยอมรับที่จะให้ผู้ขับขี่ที่อยู่ในภาวะมึนเมาอย่างเห็นได้ชัดพาไป
ศาลอุทธรณ์แห่งคาลตานิสเซตตาได้ตัดสินให้ A.A. มีส่วนผิดร่วมกัน 50% ซึ่งต่อมาได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา คณะกรรมการได้เน้นย้ำว่าผู้ยื่นอุทธรณ์ไม่ได้ปฏิบัติตามภาระในการยื่นรายงานการแจ้งให้ทราบ ทำให้การอุทธรณ์ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ประเด็นนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของกระบวนการทางกฎหมายที่ถูกต้องในการรับประกันการเข้าถึงความยุติธรรม
ศาลฎีกาได้ชี้แจงว่าการอุทธรณ์ที่ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้อาจเกิดจากการไม่ยื่นเอกสารที่จำเป็น โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของรูปแบบการดำเนินคดี
ประเด็นสำคัญของคำพิพากษาเกี่ยวข้องกับการตีความมาตรา 1227 ประมวลกฎหมายแพ่ง (c.c.) ที่เกี่ยวข้องกับคำสั่ง 2009/103/CE ศาลได้ตัดสินว่าไม่สามารถกล่าวโดยทั่วไปได้ว่าผู้โดยสารผิดเสมอไปหากถูกพาโดยผู้ขับขี่ที่อยู่ในภาวะมึนเมา ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นจำเป็นต้องประเมินสถานการณ์เฉพาะของอุบัติเหตุในแต่ละกรณี
คำพิพากษาเลขที่ 24920 ของศาลฎีกาถือเป็นการยืนยันสิทธิ์ของผู้โดยสารในบริบทของความรับผิดทางแพ่งที่สำคัญ โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการวิเคราะห์สถานการณ์ของอุบัติเหตุแต่ละครั้งอย่างละเอียด แทนที่จะใช้หลักการทั่วไปและนามธรรม นอกจากนี้ การตีความกฎหมายยุโรปยังให้กรอบการคุ้มครองผู้โดยสาร โดยรับประกันว่าพวกเขาจะไม่ถูกลงโทษอย่างไม่เป็นธรรมจากการกระทำของผู้ขับขี่