คำพิพากษาที่ 46801 ปี 2024 ซึ่งออกโดยศาลฎีกา (Corte di Cassazione) ได้ให้ข้อคิดที่สำคัญเกี่ยวกับการบังคับใช้มาตรการความปลอดภัยกับผู้ที่ถูกตัดสินลงโทษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการเนรเทศออกจากราชอาณาจักรและการคุมประพฤติ การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นในบริบททางกฎหมายที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการสร้างสมดุลระหว่างความปลอดภัยสาธารณะและสิทธิส่วนบุคคลมีความซับซ้อนมากขึ้น
คำพิพากษาที่กล่าวถึงนี้เกี่ยวข้องกับการอุทธรณ์คำสั่งของผู้พิพากษาศาลคุมประพฤติ (magistrato di sorveglianza) ที่ได้สั่งเนรเทศผู้ที่ถูกตัดสินลงโทษ ศาลเห็นว่าสามารถยอมรับการเปลี่ยนมาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการคุมประพฤติได้โดยอัตโนมัติ หากมาตรการแรกถูกพิจารณาว่าหนักเกินไป ประเด็นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากสะท้อนถึงแนวทางการประเมิน "เพื่อประโยชน์ของจำเลย" (in bonam partem) เกี่ยวกับอันตรายทางสังคมของบุคคล โดยเคารพหลักการความเหมาะสมและความสมส่วนของมาตรการความปลอดภัย
การเนรเทศออกจากราชอาณาจักร - การอุทธรณ์คำสั่งของผู้พิพากษาศาลคุมประพฤติที่บังคับใช้มาตรการ - การเปลี่ยนโดยอัตโนมัติเป็นมาตรการคุมประพฤติ - การยอมรับได้ - เกณฑ์ ในส่วนที่เกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัย ศาลคุมประพฤติ (tribunale di sorveglianza) ซึ่งมีหน้าที่ตัดสินการอุทธรณ์ที่ยื่นต่อคำสั่งของผู้พิพากษาศาลคุมประพฤติที่สั่งเนรเทศผู้ที่ถูกตัดสินลงโทษออกจากราชอาณาจักร สามารถเปลี่ยนมาตรการเดิมโดยอัตโนมัติได้ หากพิจารณาว่าหนักเกินไป โดยเปลี่ยนเป็นมาตรการคุมประพฤติ โดยดำเนินการประเมิน "เพื่อประโยชน์ของจำเลย" (in bonam partem) เกี่ยวกับอันตรายทางสังคมของบุคคล ตามหลักการความเหมาะสมและความสมส่วนของมาตรการความปลอดภัยส่วนบุคคล
การตัดสินของศาลฎีกาอิงตามการอ้างอิงทางกฎหมายหลายฉบับ รวมถึงมาตรา 228 และ 235 แห่งประมวลกฎหมายอาญา (Codice Penale) และมาตรา 27 ของรัฐธรรมนูญ (Costituzione) ซึ่งรับรองหลักการลงโทษที่มนุษยธรรม ศาลรัฐธรรมนูญได้ย้ำหลายครั้งถึงความสำคัญของมาตรการที่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และคำพิพากษาที่กล่าวถึงนี้สอดคล้องกับแนวทางนี้อย่างสมบูรณ์
นอกจากนี้ เกณฑ์ความเหมาะสมและความสมส่วนเป็นสิ่งสำคัญในกฎหมายอาญาสมัยใหม่ หลักการเหล่านี้รับประกันว่ามาตรการที่นำมาใช้จะไม่เกินกว่าความร้ายแรงของอาชญากรรมที่กระทำ และตอบสนองต่อความต้องการในการกลับคืนสู่สังคมของผู้ที่ถูกตัดสินลงโทษได้อย่างแท้จริง ในบริบทนี้ การคุมประพฤติถือเป็นมาตรการที่ก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานน้อยกว่า ทำให้บุคคลสามารถบูรณาการเข้ากับสังคมได้มากขึ้น
โดยสรุป คำพิพากษาที่ 46801 ปี 2024 ถือเป็นก้าวสำคัญสู่แนวคิดที่มนุษยธรรมและสมส่วนมากขึ้นของมาตรการความปลอดภัยในกฎหมายอาญา แสดงให้เห็นว่าระบบกฎหมายอิตาลีสามารถปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของความยุติธรรมทางสังคม ในขณะเดียวกันก็รับประกันความปลอดภัยของพลเมือง เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายและพลเมืองเองจะต้องตระหนักถึงพลวัตเหล่านี้ เพื่อส่งเสริมแนวทางที่สมดุลระหว่างความปลอดภัยและสิทธิขั้นพื้นฐาน