คำพิพากษาที่ 38481 ลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2023 ของศาลฎีกา (Corte di Cassazione) ถือเป็นจุดอ้างอิงที่สำคัญในเรื่องการอุทธรณ์เพื่อผลประโยชน์ทางแพ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายล่าสุด ด้วยการตัดสินใจนี้ ศาลได้ยืนยันการบังคับใช้มาตรา 573 วรรค 1-bis แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งนำมาซึ่งความแปลกใหม่ที่สำคัญสำหรับกรณีที่การตั้งเป็นโจทก์ร่วมทางแพ่งเกิดขึ้นหลังวันที่ 30 ธันวาคม 2022
วรรค 1-bis ของมาตรา 573 ซึ่งถูกนำมาใช้โดยพระราชกฤษฎีกาที่ 150 ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2022 มีผลบังคับใช้เฉพาะกับการอุทธรณ์เพื่อผลประโยชน์ทางแพ่งเท่านั้น ในคดีที่การตั้งเป็นโจทก์ร่วมทางแพ่งเกิดขึ้นหลังจากวันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ บทบัญญัตินี้มีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจงและทำให้กระบวนการทางกฎหมายง่ายขึ้น โดยรับประกันการคุ้มครองสิทธิของโจทก์ร่วมทางแพ่งให้ดียิ่งขึ้น
มาตรา 573 วรรค 1-bis แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา - การบังคับใช้กับการอุทธรณ์เพื่อผลประโยชน์ทางแพ่งเท่านั้นที่ยื่นในคดีที่การตั้งเป็นโจทก์ร่วมทางแพ่งเกิดขึ้นหลังวันที่ 30 ธันวาคม 2022 - การดำรงอยู่ มาตรา 573 วรรค 1-bis แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งถูกนำมาใช้โดยมาตรา 33 แห่งพระราชกฤษฎีกาที่ 150 ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2022 มีผลบังคับใช้กับการอุทธรณ์เพื่อผลประโยชน์ทางแพ่งเท่านั้นที่ยื่นเกี่ยวกับคดีที่การตั้งเป็นโจทก์ร่วมทางแพ่งเกิดขึ้นหลังจากวันที่ 30 ธันวาคม 2022 ซึ่งเป็นวันที่บทบัญญัติดังกล่าวมีผลบังคับใช้
ศาลได้ตัดสินว่าการอุทธรณ์เพื่อผลประโยชน์ทางแพ่งสามารถยื่นได้เฉพาะในบริบทของคดีที่โจทก์ร่วมทางแพ่งได้รับการตั้งขึ้นหลังกำหนดเวลาดังกล่าว วิธีการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างมาตรฐานการตีความของศาลและหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในการตีความที่อาจเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน
คำพิพากษาที่ 38481 ปี 2023 นำเสนอภาพที่ชัดเจนและแม่นยำเกี่ยวกับการบังคับใช้มาตรา 573 วรรค 1-bis แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ด้วยกฎหมายใหม่นี้ จึงเป็นการเปิดบทใหม่ที่สำคัญสำหรับการอุทธรณ์ทางแพ่ง ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการทำงานของทนายความและสิทธิของพลเมืองในการได้รับความยุติธรรม เป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ปฏิบัติงานด้านกฎหมายทุกคนจะต้องอัปเดตการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เพื่อให้แน่ใจว่ามีการบังคับใช้กฎหมายอย่างถูกต้อง